7 เทคนิคมัดใจพนักงานระดับโลก

“สูตรลับระดับโลก!ที่ช่วยมัดใจทีมงาน ในยุคที่งานเปลี่ยนงานง่ายพอๆกับซื้อของออนไลน์”

ในยุคที่การเปลี่ยนงานกลายเป็นเรื่องง่ายดายเหมือนกด “เพิ่มสินค้าใส่ตะกร้า” HR อย่างเราก็เหมือนต้องเล่นเกมมาราธอน ในการหาคนใหม่และดึงคนเก่าให้อยู่ต่อ! แต่บอกเลยว่า โลกเปลี่ยนไป เราก็ต้องเปลี่ยนวิธีสร้างแรงจูงใจให้ทัน

บทความนี้จะพาคุณไปเจอ เทคนิคระดับโลก ที่หลายองค์กรใหญ่ใช้ดึงใจพนักงานให้อยู่กับองค์กรแบบติดหนึบ แถมยังเพิ่มพลังใจให้พวกเขาลุยงานแบบไฟลุก! บอกเลย อ่านจบแล้วคุณอาจจะอยากลงมือทำ ชวนทีมมาเริ่ม หรือทักมาถามเพิ่มทันทีก็ทำได้ เพราะแต่ละไอเดียนี้ ทีมที่ปรึกษาเราได้ทดลองใช้ในองค์กรแล้ว มันเวิร์กจริง!

1. วัฒนธรรม “อิสระแต่รับผิดชอบ” (Freedom with Accountability)

แนวคิดระดับโลก:

ใครว่าพนักงานต้องนั่งออฟฟิศ 9 โมงถึง 5 โมงถึงจะทำงานได้ดี? องค์กรดัง ๆ อย่าง Netflix ให้พนักงานจัดการเวลาและวิธีทำงานเองทั้งหมด ตราบใดที่งานเสร็จตามเป้า

ผลลัพธ์:

        พนักงานรู้สึกเป็นเจ้าของงานของตัวเอง

        พวกเขาไม่รู้สึกถูกควบคุม แต่ยังคงรับผิดชอบต่อเป้าหมาย

ทำได้จริงยังไง?

เริ่มจากการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน แล้วปล่อยให้พนักงานเลือกวิธีทำงานเอง คุณอาจลองใช้เทคนิคนี้ในทีมเล็ก ๆ ก่อน เพื่อดูผลลัพธ์ได้เลยค่ะ 

2. เปลี่ยนงานให้เป็น “ภารกิจสำคัญ” (Purpose-Driven Motivation)

ทำไมต้องให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ?

เพราะคนยุคนี้ไม่ได้ทำงานเพื่อเงินอย่างเดียว แต่พวกเขาอยากรู้ว่าสิ่งที่ทำมีความหมาย

ตัวอย่างจริง:

Unilever บอกพนักงานทุกคนว่า งานของพวกเขาไม่ได้แค่ขายสินค้า แต่ช่วยให้คนทั่วโลกมีชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ได้การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พนักงานขายจึงไม่ได้ขายแต่ส่งมอบชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้เพื่อนร่วมโลกและคนในครอบครัวของเรา

วิธีใช้กับองค์กรของคุณ:

        เชื่อมโยงเป้าหมายของบริษัทเข้ากับผลกระทบที่ดีต่อสังคม

        บอกพนักงานเสมอว่าสิ่งที่พวกเขาทำช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

3. สร้างแรงจูงใจด้วย “เกมส์และการแข่งขัน” (Gamification)

ไอเดียระดับโลก:

เปลี่ยนการทำงานให้เหมือนเล่นเกม เช่น การสร้าง “Leaderboard” หรือรางวัลสำหรับผู้ที่ทำงานได้ดีที่สุดในทีม

ตัวอย่างเจ๋ง ๆ:

Microsoft ใช้ Gamification ในการฝึกอบรมพนักงาน โดยตั้งระบบให้พนักงานได้ “ปลดล็อกด่าน” เมื่อผ่านการฝึกทักษะต่าง ๆ พนักงานรู้สึกสนุก และอยากเรียนรู้ต่อไป

วิธีใช้:

ลองสร้างโปรแกรม Gamification ในทีม เช่น แข่งกันว่าใครปิดงานได้เร็วที่สุด หรือใครช่วยเพื่อนร่วมทีมได้มากที่สุด พร้อมของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ

4. ให้พนักงานเป็น “นักสร้างสรรค์ตัวจริง” (Encourage Intrapreneurship)

แนวคิด:

เปิดพื้นที่ให้พนักงานได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และทำสิ่งใหม่ ๆ เหมือนเป็นเจ้าของธุรกิจ

ตัวอย่างระดับโลก:

3M บริษัทที่สร้าง Post-it Notes เปิดโอกาสให้พนักงานใช้เวลา 15% ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ผลลัพธ์คือเกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สร้างรายได้มหาศาล

เริ่มต้นยังไง?

จัด “Idea Day” ให้พนักงานเสนอไอเดียใหม่ ๆ ที่พวกเขาอยากลองทำ พร้อมสนับสนุนทรัพยากรบางส่วน

5. ฟังพนักงานแบบ “ได้ยินจริง ๆ” (Active Listening Culture)

เคยเจอไหม?

ฟังพนักงานแต่ไม่ได้ยินว่าพวกเขาต้องการอะไรจริง ๆ องค์กรที่ประสบความสำเร็จระดับโลกให้ความสำคัญกับ “ฟีดแบ็ก” จากพนักงานแบบจริงจัง

ตัวอย่างที่โดดเด่น:

Facebook มี “Pulse Surveys” ให้พนักงานแสดงความคิดเห็นทุกเดือน และผู้บริหารจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กร

สิ่งที่คุณทำได้:

ใช้แบบสำรวจออนไลน์ หรือจัด Open Forum ให้พนักงานได้พูดความต้องการ หรือปัญหาที่พวกเขาเจอ

6. ลงทุนกับ “สุขภาพจิตและใจ” (Mental Health Matters)

ทำไมเรื่องนี้สำคัญ?

เพราะพนักงานที่มีสุขภาพจิตดีจะทำงานได้ดีกว่าและอยู่กับองค์กรนานขึ้น

ตัวอย่างจริง:

บริษัท Bumble ได้กำหนดวัน “Self Care Day” ให้พนักงานหยุดงานเพื่อพักผ่อนและฟื้นฟูสุขภาพจิต ส่วนบริษัท Google มีการจัดห้องพักผ่อน (Nap Room) เพื่อให้พนักงานได้พักผ่อนระหว่างวัน 

ในประเทศไทย คูโบต้าลีสซิ่ง ใช้Theme “สนทนาหาทำ” ในการTraining ให้การเรียนรู้ได้ผ่อนคลาย 

7. รางวัลที่ใช่ ไม่ใช่แค่เงิน

ทำไมเงินอย่างเดียวไม่พอ?

เพราะพนักงานยุคใหม่อยากได้ประสบการณ์หรือสิทธิพิเศษที่มีความหมายมากกว่าเงิน

ไอเดียระดับโลก:

ที่ Zappos พนักงานสามารถสะสมแต้มจากการทำงานดี เพื่อนำไปแลกของรางวัลที่พวกเขาเลือกเอง เช่น ทริปพักผ่อน หรือคลาสเรียนพิเศษ

ลองทำยังไง?

        สร้างระบบสะสมแต้ม หรือ “Reward Points”

        ให้รางวัลที่พนักงานเลือกได้ เช่น วันหยุดเพิ่ม หรือคอร์สเรียนที่พวกเขาสนใจ

สรุป: เปลี่ยนงานเป็นพื้นที่ที่พนักงาน “อยากอยู่”

แรงจูงใจในยุคนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงินเดือนหรือโต๊ะทำงานสวย ๆ แต่มันคือการสร้างประสบการณ์ที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่า เขามีค่า และ อยากอยู่กับองค์กรของคุณ ลองหยิบไอเดียเหล่านี้ไปใช้ แล้วคุณจะเห็นว่า การดึงใจพนักงานให้อยู่ต่อไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ปล. ถ้าอยากคุยไอเดียเพิ่ม หรืออยากปรึกษาวิธีนำไปปรับใช้ในองค์กรของคุณ อินบ็อกซ์มาหาเราได้เลย! พร้อมแชร์เทคนิคเฉพาะตัวให้ทีม HR ของคุณลุยได้แบบมืออาชีพแน่นอน!

ทักมาได้เลยที่

[email protected]
Line OA : IDEO Empowerment
Facebook : IDEO Empowerment


คลิกเพื่อรับ Soft file - Culture Building Playbook

คลิก >> ดาวน์โหลด
Soft file - Culture Building Playbook

เมื่อคลิกแล้วให้ใส่อีเมล / เบอร์ / องค์กร 
แล้วทางเราจะจัดส่ง
Soft file - Culture Building Playbook ไปให้ทางอีเมล์ได้เลยค่า